Monday, July 23, 2018

Icecrown Citadel 10 Normal [Storming the Citadel]


ตัวย่อสำหรับการลง raid

MT = Main tank แท็งหลัก
OT = Off tank  แท็งรอง
DPS = Damage per second ใช้เรียกผู้ที่ทำดาเมท
MDPS = Melee Dps ตัวตีใกล้
RDPS = Range Dps ตัวยิงไกล
Dot = Damage over time เลือดไหล/พิษ/คำสาป
AOE = Area of effect สกิลหมู่



### Lord Marrowgar ###

สำหรับบอสตัวแรกค่อนข้างจะไม่มีอะไรมากครับแค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ก็สามารถผ่านได้อย่างสบายโดยสกิลของบอสจะมีสกิลดังนี้
Bone Spike เสาน้ำแข็งทำให้คนที่โดนขยับไม่ได้ต้องให้เพื่อนใน raid ช่วยกันทำการตีเสาเหล่านี้
cold flame ไฟสีฟ้าที่จะออกมารอบๆตัวบอสไม่ควรยืนแช่
Bone Storm สกิลปั่นรอบแต่ไม่รุนแรงมากนักสามารถยืนแช่ได้ (HCไม่ควรยืนแช่เด็ดขาด)
Bone Slice สกิลตี cleaving ของบอสปกติแท็งจะเป็นผู้ยืนรับสกิลนี้ยกเว้นแต่จะมีคนไปยืนหน้าบอสแทนแท็ง

หน้าตาของ Bone Spike

สำหรับ DPS
1.อย่ายืนในไฟสีฟ้าที่บอสจะปล่อยออกมาส่วนมากจะปล่อยจากข้างหลังบอส
2.อย่ายืนหน้าบอสเด็ดขาดเพราะบอสจะตีเป็น cleaving หน้าบอส
3.ตลอดทั้ง fight บอสจะทำการร่าย Bone Spike เป็นเสาน้ำแข็งขึ้นมาโดยสุ่มร่ายเปล่าหมายผู้ที่โดนจะไม่สามารถขยับได้ rdps/mdps ต้องทำการช่วยกันทำลายเสาเหล่านี้ให้ไวที่สุด
4.เวลาบอสใช้สกิล Bone Storm บอสจะทำการปั่นทำดาเมทรอบตัวแต่ไม่ค่อยรุนแรงมากนักสามารถยืนรับดาเมทได้แต่บอสจะทำการปล่อยไฟเหมือนข้อ 1 เป็นรูป กากบาท ตรงจุดนี้ควรระวังไม่ให้ตัวเองยืนอยู่ในไฟ

สำหรับ TANK
1.บอสตัวนี้จำเป็นต้องให้แท็งทั้ง 2 ตัวยืนติดกันเพราะบอสจะทำการหารดาเมทเวลาที่บอสตีหากยืนอยู่เพียงคนเดียวก็จะรับดาเมทเละแบบไม่แบ่งใคร
2.บอสตัวนี้ไม่สามารถ taunt ได้ แท็งควรทำการ burst damage เพื่อเร่ง aggro ให้ไวที่สุด
3.เวลาบอส Bone Storm ไม่ควรวิ่งตามบอสหรือวิ่งตามไปตีแล้วลากบอสกลับไปที่เดิม

สำหรับ HEALER
healer อย่ายืนหน้าบอส + สามารถฮิลคนที่โดน spike ได้ (deathwing ทำไม่ได้ icecrown ทำได้ 555) ระวังพื้นไฟ



### Lady Deathwhisper ###

บอสตัวที่ 2 ของ icc ค่อนข้างจะมีความยุ่งยากขึ้นมาบ้างแต่ไม่ถึงกับยากมากโดยบอสจะแบ่งเป็น 2 phase สกิลที่บอสมีก็คือ
summon ลูกน้องออกมา 3 ตัวโดยเริ่มจากทางซ้ายของห้องก่อนให้ dps ทำการจัดการพวกนี้โดยไว
Death and Decay พื้นสีเขียว ไม่ควรยืนแช่เด็ดขาด
Mana Barrier บอสจะใช้หลอด mana แทนเลือดใน phase แรกหากหลอด mana บอสหมดจะเริ่ม phase 2 ทันที
Frostbolt ยิงน้ำแข็ง slow หมู่สามารถ interrupt ได้
Touch of Insignificance ทำให้แท็งไม่สามารถ hold aggro ได้ dps ทุกคนที่ดาเมทสูงๆควรระวังบอสหลุด
Summon Vengeful Shade เรียกผีใสจะสุ่มวิ่งไล่ตามคนหนึ่งคน ผู้ที่โดนหมายหัวต้องวิ่งหนีให้ห่างจากเพื่อน

สำหรับ Melee DPS
1.เมื่อเริ่ม start boss ควรรอตี add ที่บอสจะเรียกออกมาทางด้านซ้ายก่อนจึงจะเข้าไปตีบอสและเมื่อบอสเรียก add ออกมาทางด้านขวาก็เข้าไปตีให้ก่อนด้วย
2.บอสชอบที่จะใช้สกิล Death and Decay รอบๆตัวบอสควรระวังไม่ควร dps เพลิน
3.หากมีสกิลสำหรับ interrupt ควร interrupt Frostbolt ด้วยจะได้ไม่ติด slow
4.ระวังเรื่อง aggro เพราะแท็งจะดึง aggro ยากมากหากยิ่งสู้นานหากบอสเริ่มหน้าเหลืองควรหยุดตีหรือใช้สกิลลด threat สำหรับตัวเอง
5.เมื่อเริ่ม phase 2 ควรระวัง Vengeful Shade ที่วิ่งไล่ให้วิ่งออกหากจากเพื่อนอย่า dps เพลิน

สำหรับ Range DPS
เมื่อเริ่ม start ให้ตีบอสเลยโดยจะสนใจ add หรือไม่สนใจก็ได้
ที่เหลือจะเหมือนของ Melee DPS

สำหรับ TANK
1.เริ่มมาให้ไปยืนด้านซ้ายของห้องเพื่อรอรับ add ที่จะเกิดทันทีเมื่อเริ่ม หลังจากนั้นให้ไปด้านซ้าย สลับกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะขึ้น phase 2
2.เมื่อบอส Mana ใกล้จะหมด MT ควรจะเริ่มตีบอสก่อนจะขึ้น phase 2 เพื่อรวบรวม aggro ให้มากที่สุด
3.ให้ระวัง Touch of Insignificance ที่จะทำให้ aggro ลดลงเมื่อครบ 3 stack ควรเปลี่ยนให้ OT มาแท็งแทน
4.ระหว่าง phase 2 จะยังคงมี add มาเรื่อยๆผู้ที่ไม่ได้แท็งบอสจะต้องคอยดึง add ไว้

สำหรับ HEALER
คอย dispel frostbolt/Curse of Torpor ออกให้ไวที่สุด อย่าลืม ฮิลด้วย และอย่ายืนแช่พื้นเขียว



### Gunship (AKA Lootship) ###

fight นี้จะเป็นเรือบิน เราจะไม่สามารถฆ่าบอสได้ต้องทำการทำลายเรือบินฝ่ายตรงข้ามโดยให้ผู้เล่น 2 คนใช้ปืนใหญ่และสู้กับ add ที่คอยออกมาจากวาปบนเรือของเรา เมื่อทำการ fight ไปได้ซักพักบอสจะเรียก mage ออกมาร่ายเวททำให้ป้อมปืนใหญ่ของเรา
กลายเป็นน้ำแข็ง dps จำเป็นที่จะต้องโดดข้ามไปเรืออีกลำเพื่อทำการฆ่า mage ให้ป้อมปืนของเราหลุดจากน้ำแข็ง การที่จะกระโดดไปเรืออีกลำนั้นต้องใช้จรวดที่ได้จากกก็อปลินบนเรือของเราเมื่อคุยกับก็อปลินได้จรวดแล้อย่าลืมทำการสวมใส่จรวดก่อน
วิธีการใช้จรวดคือเมื่อสวมใส่แล้วให้กดลากจรวดจากช่องสวมใส่มาที่คีย์ลัดบนหน้าจอกดใช้แล้วเลือกตำแหน่งที่จะกระโดดไป (เมื่อชนะบอสตัวนี้ควรทำการถอดและโยนทิ้งทันทีเพื่อป้องกัน COMBAT BUG ที่จะเกิดขึ้น)

ระหว่าง fight เรือฝ่ายตรงข้ามจะคอยยิงจรวดมาเรื่อยๆต้องคอยหลบพื้นสีส้มๆให้ดี และจะมี summon ออกมากลางเรือเรื่อยๆ

หน้าตาของตัวแจก Rocket pack

สำหรับ Melee DPS
1.คอยจัดการ add ที่โผล่มากลางเรือในระหว่างที่ป้อมปืนยังไม่เป็นน้ำแข็ง
2.เมื่อป้อมปืนกลายเป็นน้ำแข็งต้องทำการกระโดดโดยใช้จรวดที่ได้จากกก็อปลินบนเรือของเรา โดยเลือกตำแหน่งลงที่ไหนก็ได้ที่ MT ไม่ทำการยืนแท็งบอสอยู่เพราะบอสตีเป็น cleaving อาจตายได้โดยไม่รู้ตัว
3.หลังจาก mage ตายควรรีบกลับเรือโดยไว

สำหรับ Range DPS
1.คอยยิงจัดการ mob ที่คอยขว้างขวานใส่คนของเรือเราเพราะหากปล่อย mob เหล่านั้นไว้นาน mob จะตีแรงขึ้นเรื่อยๆ
2.เหมือน MDPS เมื่อ Mage มาควรจะกระโดดไปช่วยยิงและอย่ายืนหน้าบอสเด็ดขาดหลังจาก mage ตายก็กลับเรือขึ้นป้อมปืนต่อโดยไว (ระหว่างออกจากป้อมปืนระวังอย่าขยับไปข้างหน้าเพราะจะตกเรือได้)

สำหรับ TANK
Main Tank
1.เมื่อ Mage มาให้กระโดดไปคอยดึงบอสไว้ที่เรืออีกลำเมื่อ mage ตายต้องรอให้เพื่อนกลับเรือไปให้หมดก่อนจึงทำการกระโดดกลับ
2.บอสจะทำการตีติด stack ยิงยืนนานยิ่งโดนแรงควรรอ stack ให้หมดก่อนถึงจะกระโดดไปอีกรอบ

Off Tank
1.คอยดึง mob ที่เกิดกลางเรือไว้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครช่วยตีเพราะบอสเรือของเราจะคอยไล่ตี mob พวกนี้เอง
2.หาก Main Tank ตายควรจะต้องกระโดดไปแท็งบอสเรืออีกลำ (ทำตามขั้นตอน Main Tank)

สำหรับ HEALER
EZ LIFE MADAFAKA ยืนฮิลต่อไปอย่าตกเรือพอ


สำหรับ Cannon
ให้ใช้สกิล 1 ไปเรื่อยๆแล้วคอยดูหลอดสีส้มๆทางขวาไม่ให้เกิน 100% หาก 100% ปืนจะ overheat ทำให้ยิงไม่ได้ไปซักพัก
วิธีการไม่ให้ปืน overheat คือกดสกิล 2 ยิ่งหลอดสีส้มเยอะสกิล 2 จะรุนแรงมากขึ้น



### Deathbringer Saurfang ###

สำหรับบอสตัวนี้ค่อนข้างง่ายสำหรับ MDPS แต่สำหรับ RDPS และ HEALER จะลำบากนิดหน่อยเพราะต้องคอยวิ่งหนี Blood Beast ที่บอสจะคอยเรียกออกมาระหว่าง fight
สำหรับสกิลของบอสตัวนี้ไม่ค่อยมีอะไรยุ่งยากมากซักเท่าไรจึงขอข้ามส่วนนี้ไป

สำหรับ MDPS
1.ยืนตีทำดาเมทบอสอยู่หลังบอสไม่จำเป็นต้องสนใจ Blood Beast ที่บอสเรียกออกมา
2.เวลาที่บอสเรียก Blood Beast ออกมาไม่ควร AOE เพราะ Blood Beast อาจหันมาตีได้

สำหรับ RPDS
1.พยายามยืนห่างจากกลุ่ม RDPS และ HEALER ให้ได้ประมาณ 12 yard (สามารถเช็ค yard หากใช้ DBM addon โดยการพิม /range)
2.เมื่อบอสเรียก Blood Beast ออกมาให้หยุดตีบอสและเล็ง Blood Beast เป็นอันดับแรก Blood Beast สามารถ stun / slow ได้ moonkin หรือ mage สามารถใช้ typoon dragon / breath ผลักได้
3.หากถูก Blood Beast ล็อคเป้าให้วิ่งหนีพยายามห้ามถูกตี

สำหรับ MT OT TANK
1.แท็งบอสตามปกติแต่หากแท็งคนใดได้รับ debuff Rune of Blood ต้องให้แท็งอีกคน taunt บอสทำการสลับแท็งโดยทันที
2.ไม่ต้องพยายามดึง Blood Beast ปล่อยให้ RDPS เป็นคนจัดการ

สำหรับ HEALER
1.คอยจับตาดู Blood Beast และหลบให้ดีเพราะการฮิลอาจสร้าง threat ทำให้ Blood Beast หันมาตีได้
2.คอยจับตาดูคนที่ได้รับ debuff Mark of the Fallen Champion เป็นพิเศษเพราะเลือดจะลดไวมาก

เท่านี้ก็จบสำหรับบอส 4 ตัวแรก [Storming the Citadel] ครับ ไว้จะมีบอสที่เหลือตามมาอีกใน part ถัดๆไปครับ